หลังจากที่ Huawei ไม่ได้ผลิตแล็ปท็อปมาเป็นเวลานาน แต่ matebook x pro 2020 ของ Huawei ก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์พกพาที่ดีที่สุด เป็นรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับฮาร์ดแวร์ภายในที่ได้รับการอัปเกรดมากกว่าแล็ปท็อปของปีที่แล้ว และยังคงเป็นตัวเลือกที่ดี เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้านี้ MateBook X Pro 2020 มีหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ในอัตราส่วน 3:2 ดีไซน์ที่สวยงาม บาง และเบา มีคีย์บอร์ดที่ดีที่สุดตัวหนึ่งที่เราเคยใช้กับแล็ปท็อปทุกเครื่อง ในความเป็นจริงแล้ว ภายในของแล็ปท็อปมีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด โดย Huawei ได้เปิดตัวโปรเซสเซอร์ Intel เจนเนอเรชัน 10 ใหม่เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น อายุการใช้งานแบตเตอรี่ก็ดีขึ้นเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้ดีที่สุด
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Huawei MateBook X Pro (2020)
เช่นเดียวกับแล็ปท็อป MateBook X Pro ทุกรุ่น รุ่นใหม่นี้เป็น Windows 10 แบบพกพาระดับพรีเมียมที่ออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับโน้ตบุ๊ก Dell XPS 13 และ MacBook Pro ของ Apple ส่วน matebook x pro 2020 มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 14 นิ้ว 3K ที่สดใส และคมชัดอย่างเหลือเชื่อ ตัวเครื่องโลหะทั้งหมดสีเทาเข้มที่สวยงาม มีลำโพง 4 ตัว เครื่องอ่านลายนิ้วมือ เว็บแคมแบบป็อปอัป แป้นพิมพ์ และทัชแพดที่ยอดเยี่ยม แล็ปท็อปในปีนี้ได้รับการอัปเดตด้วยซีพียู Core i5 และ Core i7 เจนเนอเรชัน 10 ของ Intel พร้อมพื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 1TB ราคาในประเทศไทยเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 59,990 บาทเท่านั้น พร้อมของแถมอีกมากมายด้วย
ดีไซน์และฟีเจอร์ต่าง ๆ
ไม่มีอะไรโดดเด่นมากนักเกี่ยวกับดีไซน์ของ MateBook X Pro 2020 แต่ก็ขอย้ำว่าแล็ปท็อปรุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามาก ๆ อย่างแรกคือ ตัวเครื่องบางและน้ำหนักเบามาก โดยวัดความหนาได้ 14.6 มม. เมื่อปิด และน้ำหนัก 1.3 กก. ที่เบาราวกับขนนก ขอบตัวเครื่องโค้งมนดูเรียบง่าย ที่ด้านข้างของตัวเครื่อง มีพอร์ตมากมายให้เลือกใช้ ด้านขวามีช่องเสียบ USB 3.0 USB-A ขนาดเต็มเพียงช่องเดียว ซึ่งสะดวกมากสำหรับการเชื่อมต่อธัมบ์ไดรฟ์ USB รุ่นเก่า ที่ขอบด้านซ้ายมีพอร์ต USB-C หนึ่งพอร์ต ซึ่งทั้งสองพอร์ตรองรับข้อมูล การชาร์จ และเอาต์พุตวิดีโอ นอกจากนี้ยังมีแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มม. อยู่ข้าง ๆ ด้วย
ต่อมาคือคีย์บอร์ด Scrabble-tile ที่มีแสงพื้นหลังที่ดูสวยงาม พร้อมปุ่ม Enter แบบสองแถวขนาดใหญ่ ปุ่ม Shift และเคอร์เซอร์ขนาดใหญ่ก็สวยงามไม่แพ้กัน การกดแป้นพิมพ์แต่ละครั้งให้สัมผัสที่นุ่มนวลและไม่แข็งเลย คีย์บอร์ดสวย ๆ และทัชแพดขนาดใหญ่ใช้งานได้ดีพอ ๆ กัน แม้ว่าจะไม่มีอะไรแปลกใหม่เท่าเทคโนโลยีการตอบสนองแบบสัมผัสของ Apple ที่ใช้อยู่ แต่กลไกการคลิกแบบกลไกที่รับน้ำหนักได้อย่างสมบูรณ์แบบก็ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี
นอกเหนือจากนี้ ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสังเกตเกี่ยวกับ matebook x pro 2020 อีก 2-3 อย่าง อย่างแรกคือปุ่มเปิดปิดแบบวงกลมที่อยู่เหนือแป้นพิมพ์ทางด้านขวา ซึ่งมีเครื่องอ่านลายนิ้วมือ เพื่อใช้ในการเข้าสู่ระบบไบโอเมทริกซ์อย่างรวดเร็ว และฟีเจอร์อีกอย่างหนึ่งที่อยากให้ Huawei เปลี่ยน นั่นก็คือเว็บแคม 720p ของแล็ปท็อปยังคงรวมเข้ากับปุ่มฟังก์ชัน ระหว่าง F6 และ F7 ที่แถวบนสุดของแป้นพิมพ์ คุณภาพของวิดีโอนั้นอยู่ในระดับพอใช้
อีกฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจคือ เทคโนโลยี Huawei Share ของ MateBook X Pro (2020) ที่ขับเคลื่อนด้วย NFC การทำงานนี้เหมือนกับการแชร์แบบไร้สาย AirDrop ของ Apple ยกเว้น iPhone ซึ่งต้องมีโทรศัพท์ Huawei เพื่อให้ทำงานได้ ช่วยให้ถ่ายโอนไฟล์ไปมาได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องวุ่นวายกับการจับคู่หรือเชื่อมต่อสายเคเบิล น่าเสียดายที่ไม่สามารถใช้งานได้กับโทรศัพท์ Android เครื่องอื่น
จอแสดงผลและประสิทธิภาพในการทำงาน
Huawei MateBook X Pro (2020) มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัส LTPS IPS ขนาด 14 นิ้วที่มีความละเอียด 3,000 x 2,000 (260ppi) และอัตราส่วนกว้างยาว 3:2 นี่คือรูปร่างที่เหมาะสำหรับแล็ปท็อปทำงาน สามารถใช้ดูเอกสารหรือหน้าเว็บได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเลื่อน เมื่อพูดถึงการชมภาพยนตร์ หรือรายการทีวี แถบสีดำที่ด้านบนและด้านล่างของหน้าจอจะสูงกว่าจอแสดงผลในอัตราส่วน 16:9 หรือ 16:10 เล็กน้อย นี่เป็นจอแสดงผลที่ทำงานได้ดีสำหรับเนื้อหาทั้งหมดในแง่ของคุณภาพโดยรวม ความสว่างสูงสุดที่ 533cd/m2 อัตราคอนทราสต์ที่ 1,579:1 และประสิทธิภาพของสีสันก็ดูคมชัดมาก
MateBook X Pro (2020) ใหม่นั้นทำงานได้ดีกว่ารุ่นก่อน แต่ไม่มากนัก ในส่วนของอายุการใช้งานแบตเตอรี่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง แม้ว่าจะใช้ชิป Intel ที่ใช้พลังงานต่ำ แต่ MateBook X Pro ก็สามารถใช้ได้ประมาณ 7-8 ชั่วโมงเท่านั้น เดาว่าซีพียู Core i7 เจนเนอเรชันนี้ไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากับรุ่นก่อน ๆ แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของ Huawei ถ้าเทียบกับ Dell XPS 13 ล่าสุด (ปลายปี 2019) ที่ใช้ CPU ตัวเดียวกันก็พบว่าเจอปัญหาเดียวกัน
matebook x pro 2020 เป็นแล็ปท็อปรุ่นใหม่ที่มีการอัปเดตเล็กน้อย แม้ว่าจะไม่โดดเด่นมากนัก ด้วยหน้าจอแสดงผลระดับคุณภาพ ประสิทธิภาพรอบด้านที่ดีมาก ๆ แถมยังสามารถเล่นเกมได้ค่อนข้างลื่นไหล แม้ว่าจะไม่เท่ากับแล็ปท็อปเกมเมอร์ก็ตาม ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่ดูหรูและดูแพง น้ำหนักเบา พกพาได้ง่าย เหมาะสำหรับใช้ในการทำงานได้เป็นอย่างดี แม้ว่าประสิทธิภาพของอายุในการใช้งานและแบตเตอรีจะไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่า Huawei ทำได้ดีมากแล้วสำหรับแล็ปท็อปที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์มากมายนี้ แม้ว่าราคาจะสูงมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะลองใช้ แล้วคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
