Huawei MateView GT อัดแน่นไปด้วยสเปกสูง รวมถึงความละเอียด 3,440 x 1,440 พิกเซล และอัตราการรีเฟรชที่ 165Hz แม้ว่าหน้าจออื่น ๆ จะมีความสามารถเหนือกว่า Huawei MateView GT ในแง่ของสเปก แต่ก็มีราคาแพงมากกว่าด้วย และเราคิดว่านี่เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากสำหรับเกมเมอร์ ใครที่สงสัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานของ mateview gt ที่นี่อาจมีคำตอบที่คุณกำลังมองหาอยู่ ตั้งแต่ประสิทธิภาพในการเล่นเกม ไปจนถึงคุณภาพของเสียง
Hauwei MateView GT การออกแบบและการติดตั้ง
จอภาพ IPS LCD ขนาดใหญ่ 34 นิ้วจากมุมหนึ่งไปอีกมุมหนึ่ง ด้วยอัตราส่วนภาพ 21:9 ความโค้ง 1500R และความละเอียด 3,440 x 1,440 พิกเซล และสามารถเชื่อมต่อจอภาพกับซาวนด์บาร์และขาตั้งได้ โดยพอร์ตเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่หลังแผ่นพลาสติกสีดำ สามารถเสียบสายเคเบิลได้ง่าย แม้ว่าจะเป็นพลาสติกทั้งหมด แต่ก็ยังเป็นจอภาพที่ดูพรีเมียมและสวยงามมาก ๆ มีแสงไฟ LED ที่สาดส่องบนซาวนด์บาร์ที่ด้านล่าง และกรอบรอบ ๆ ด้านข้างของแผง VA นั้นมีความบางจนน่าพอใจ การประกอบมีคุณภาพดี และจอภาพมีความมั่นคงเมื่อวางไว้ที่ใดที่หนึ่ง จอภาพจะพอดีกับขาตั้ง
เราสามารถปรับความสูงของหน้าจอได้ แต่ไม่สามารถหมุนได้ ดังนั้นหากคุณต้องการให้หน้าจอหันไปในทิศทางอื่น คุณจะต้องขยับขาตั้งทั้งหมด จอภาพมีการแสดงผลบนหน้าจอที่ครอบคลุม ทำงานผ่านจอยสติ๊กขนาดเล็กด้านล่าง ผู้ใช้งานจะได้รับคำแนะนำบนหน้าจอสำหรับการนำทางเมนู ซึ่งเป็นประโยชน์มาก ๆ ในเรื่องของการติดตั้งและใช้งานนั้นไม่มีปัญหาใด ๆ ค่อนข้างทำได้ดีมาก ในแง่ของการเชื่อมต่อและพอร์ต มีพอร์ต USB-C สำหรับวิดีโอ, การชาร์จอุปกรณ์ และการถ่ายโอนข้อมูล, พอร์ต HDMI 2.0 สองพอร์ต และซ็อกเก็ต DisplayPort 1.4 ด้วย นอกจากนี้ยังมีแจ็คเสียงขนาด 3.5 มม. ที่ทำหน้าที่สองหน้าที่ เป็นช่องเสียบปลั๊กสำหรับหูฟังบางรุ่น หรือไมโครโฟน (หรือทั้งสองอย่างในชุดหูฟังเดียวกัน)
ฟีเจอร์และรูปภาพ
จากการทดสอบ Huawei mateview gt ด้วยการเล่นเกมหลาย ๆ เกม เช่น Red Dead Redemption 2, Cyberpunk 2077 และ Grand Theft Auto รวมถึงใช้เป็นหน้าจออเนกประสงค์และดูวิดีโอ 2-3 อย่างในนั้นด้วย โดยรวมแล้ว นี่คือแผงหน้าจอที่ยอดเยี่ยม ด้วยสีสันที่สดใส คอนทราสต์สีที่เข้มข้น และทำให้เกิดภาพเบลอหรือภาพซ้อนได้น้อยมาก ตราบใดที่เรามีเกมและเนื้อหาอื่น ๆ เพื่อใช้ประโยชน์จากหน้าจอที่กว้างมาก เราก็จะได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งสำหรับการใช้งาน เมื่อพูดถึงสเปกจริง จอภาพมีอัตราการรีเฟรชสูงสุด 165Hz, ความสว่างสูงสุด 350 nits, รองรับ HDR10 และอัตราส่วนคอนทราสต์ช่วงไดนามิก 4,000:1 จอภาพสามารถแสดงสีต่าง ๆ ได้ 1.07 พันล้านสี โดยมีช่วงสีกว้าง DCI-P3 90% และช่วงสี sRGB 100% นี่เป็นสเปกที่ดีมากสำหรับราคาที่เราจ่ายไป เวลาในการตอบสนองที่ 4ms อาจไม่เพียงพอสำหรับเกมเมอร์มืออาชีพ แต่สำหรับพวกเราที่เหลือ ก็ถือว่าไม่มีปัญหา
เราต้องพูดถึงซาวนด์บาร์ 2 x 5W ที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอ นี่เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่แปลกของ Huawei MateView GT แต่ก็ให้เสียงที่ยอดเยี่ยมสำหรับขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ หากคุณไม่สนใจรูปลักษณ์ของมัน คุณจะไม่ผิดหวังกับเสียงที่มาจากเกม วิดีโอ และอื่น ๆ และเราคิดว่ามันเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักในการซื้อจอภาพนี้ แถบเสียงยังมีแถบไฟ LED บางเฉียบในตัว ซึ่งสามารถปรับแต่งให้เข้ากับการตั้งค่าการเล่นเกมได้ การรองรับ AMD FreeSync นั้นรวมอยู่ในตัวเช่นกัน เพื่อความมั่นใจเพิ่มเติมเล็กน้อยว่าเกมที่เล่นจะลื่นไหลอย่างแน่นอน
ในเรื่องของประสิทธิภาพของแผงควบคุม MateView GT อาจเกิดภาพซ้อนเล็กน้อยในช่วงที่หน้าจอมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เช่น การเล่นเกมที่มีการต่อสู้กับศัตรูหลายตัว ในส่วนนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการตั้งค่าโอเวอร์ไดรฟ์สูงสุด ในส่วนของซาวน์บาร์ที่เคลมว่าเป็นเหมือนกับลำโพงภายในตัว สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ก็สามารถใช้งานได้ คุณภาพเสียงอยู่ในระดับพอใช้ แต่ถ้าเทียบกับการใช้ลำโพงแยกนั้นยังสู้ไม่ได้ ถ้าใครที่เน้นคุณภาพเสียง แนะนำให้ใช้ลำโพงแยกจะดีกว่า
โดยรวมแล้ว หลายคนที่ซื้อและลองใช้ Huawei MateView GT รู้สึกประทับใจกับสิ่งที่นำเสนอ มีส่วนน้อยที่มีการผิดหวังเล็กน้อย แต่รวม ๆ แล้วก็ถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม ภาพยนตร์ ไปจนถึงการท่องเว็บไซต์ นี่เป็นหน้าจอตัวเลือกในใจของใครหลาย ๆ คนที่ต้องการอัปเกรดอุปกรณ์เสริมอันใหม่ของเรา แผงหน้าจอนั้นยอดเยี่ยมในแง่ของสี คอนทราสต์ และความสว่าง และยังมีสเปกที่ดีอยู่ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังติดตั้งง่ายและใช้งานง่ายอีกด้วย
mateview gt อาจมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่ก็ค่อนข้างน้อย หน้าจอแบบอื่น ๆ ให้อัตราการรีเฟรชที่เร็วขึ้น และมุมมองในการรับชมจะไม่ดีนักหากคุณไม่ได้นั่งตรงหน้าจอ (ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เว้นแต่คุณจะมีผู้ชมในห้องกับคุณ) ความสวยงามของจอภาพอาจไม่เหมาะกับทุกคน และคุณไม่สามารถหมุนหน้าจอได้ง่าย ๆ ในส่วนของราคาก็ถือว่าถูกและคุ้มค่ามาก ๆ สำหรับสเปกนี้ ราคาจำหน่ายที่ประเทศไทยจะอยู่ที่ประมาณ 19,990 บาทเท่านั้น เป็นราคาระดับกลาง ๆ สำหรับจอภาพที่มีคุณภาพเหนือกว่า เป็นจอภาพสำหรับเกมเมอร์ที่ดีที่สุด ดูดีจากทุกมุม อัดแน่นในแง่ของเสียง และราคาที่สามารถเข้าถึงได้
