เปิดความลับแล้ว! ทำไมสุนัขถึงชอบเลียใบหน้าเจ้าของ นักวิทยาศาสตร์เผยสาเหตุที่แท้จริงไม่ใช่แค่ความรัก

Exclusive Pet ทาสต้องรู้

การที่สุนัขเลียใบหน้าเจ้าของถือเป็นภาพที่คุ้นตากันดีในครัวเรือนที่เลี้ยงสุนัข หลายคนเชื่อว่าเป็นเพียงการแสดงความรักเท่านั้น แต่การวิจัยล่าสุดเผยให้เห็นว่า พฤติกรรมนี้มีรากฐานทางวิทยาศาสตร์และวิวัฒนาการที่ซับซ้อนกว่าที่เราเคยคิด

พฤติกรรมที่มีรากฐานจากบรรพบุรุษหมาป่า

ดร.เอมิลี่ แบล็กเวลล์ อาจารย์ด้านพฤติกรรมและสวัสดิภาพสัตว์เลี้ยงจากมหาวิทยาลัยบริสตอล อธิบายว่า “เป็นพฤติกรรมทางสังคมที่มาจากประวัติวิวัฒนาการของพวกมัน” โดยพฤติกรรมการเลียหน้านี้สืบย้อนไปถึงยุคของหมาป่า

นักวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับสัตว์ป่าตระกูลเสือโครงการ เช่น หมาป่า โคโยตี สุนัขจิ้งจอก และสุนัขป่าอื่นๆ รายงานว่า ลูกหมาป่าจะเลียหน้าและจมูกของแม่เมื่อแม่กลับจากการล่าเหยื่อ เพื่อกระตุ้นให้แม่อาเจียนอาหารให้พวกมันกิน ดร.อเล็กซานดรา โฮโรวิทซ์ หัวหน้าห้องปฏิบัติการด้านการรับรู้ของสุนัขแห่งมหาวิทยาลัยคอลัมเบีย กล่าวว่า “เหตุผลที่พวกมันทำแบบนั้นคือการขออาหารจากหมาป่าที่เพิ่งล่าเหยื่อมา”

ความหมายที่หลากหลายของการเลีย

การแสดงความรักและความผูกพัน

การเลียเป็นพฤติกรรมธรรมชาติของสุนัข การศึกษาพบว่าการเลียจะกระตุ้นการหลั่งเอ็นดอร์ฟินในสมองของสุนัข ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ทำให้สุนัข (และเรา!) รู้สึกสงบและผ่อนคลายมากขึ้น จากนั้นจะนำไปสู่การหลั่งโดพามีน อีกหนึ่งสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับความสุขและแรงจูงใจ

พฤติกรรมการเลียหน้าของสุนัขเป็นเสมือนการทำความสะอาด การกรูมมิ่งความงามให้กับเรา ซึ่งเป็นการแสดงถึงความรัก การเอาใจใส่ ความผูกพันที่พวกเขามีให้แก่เรา ในสังคมของสุนัข การเลียใบหน้าเป็นรูปแบบหนึ่งในการแสดงความรักต่อกัน อย่างแม่ลูก หรือพี่น้องในฝูงเลียให้กันจะช่วยให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลาย หลั่งสารเอ็นโดฟิน สารแห่งความสุขออกมา

การสื่อสารการยอมจำนนและความเคารพ

การเลียหน้ายังเป็นสัญญาณของการยอมจำนน เมื่อสุนัขเลียเจ้าของ พวกมันกำลังแสดงความเคารพและยอมรับว่าเจ้าของเป็นผู้นำฝูง การเลียจะลดระดับความก้าวร้าวของพวกมัน และเป็นวิธีธรรมชาติในการสื่อสารการยอมจำนนและความเคารพ

การแสดงความยอมรับนับถือนั้นมีส่วนคล้ายๆ กับการยอมแพ้ เพราะจากลักษณะพฤติกรรมการเลียใบหน้าของสุนัข หากเป็นในกรณีที่สุนัขเคารพเรา เห็นเราเป็นจ่าฝูง การเลียจ่าฝูงเป็นการแสดงถึงการสยบยอมและยอมรับว่าอีกฝ่ายเป็นจ่าฝูงที่มีฐานะเหนือกว่า

การขอความสนใจและอาหาร

เมื่อสุนัขเลียหน้าเจ้าของ พฤติกรรมนี้จะได้รับความสนใจ การตอบสนองอาจเป็นความยินดีหรือความไม่พอใจ แต่เนื่องจากสุนัขมีปัญหาในการแยกแยะความแตกต่างของการตอบกลับเชิงบวกและเชิงลบ โดยทั่วไปแล้วทุกอย่างจะถือเป็นความสนใจ

สุนัขบางครั้งใช้การเลียเพื่อสื่อสารว่าพวกมันหิว ลูกสุนัขเลียริมฝีปากของแม่เพื่อกระตุ้นการสะอื้านเพื่อที่จะกินอาหารที่แม่อาเจียน เช่นเดียวกับบรรพบุรุษหมาป่า สุนัขป่าเลียหน้าของผู้นำฝูงเป็นวิธีขออาหาร

เหตุผลทางกายภาพที่น่าสนใจ

รสชาติที่ดึงดูดใจ

มนุษย์มีต่อมเหงื่อสองประเภท คือ เอคไครน์และอโพไครน์ ต่อมเอคไครน์หลั่งของเหลวใสไร้กลิ่นที่บางซึ่งทำจากเกลือ โปรตีน ฯลฯ และพบจำนวนมากที่ฝ่าเท้า ฝ่ามือ หน้าผาก แก้ม และใต้รักแร้ ต่อมอโพไครน์หลั่งของเหลวข้นกว่าที่ทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียบนผิวหนังเพื่อสร้างกลิ่นกาย

เมื่อเราเหงื่อออกเราจะหลั่งเกลือและสารเคมีที่เป็นกรดที่อาจมีรสชาติอร่อยสำหรับสุนัข สุนัขอาจเลียหน้าและมือของเจ้าของ โดยได้กลิ่นเศษอาหารเล็กๆ น้อยๆ ของสิ่งที่เจ้าของกิน หรือครีมบำรุงที่มีกลิ่นหอม

การรวบรวมข้อมูลผ่านกลิ่นและรสชาติ

สุนัขเป็นสัตว์ที่สำรวจโลกผ่านทางปากและรวบรวมข้อมูลมากมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมผ่านรสชาติและกลิ่น ดร.โจ เกล ผู้จัดการอาวุโสด้านการสนับสนุนวิทยาศาสตร์โลกแห่งสถาบันวิทยาศาสตร์การดูแลสัตว์เลี้ยงวอลแทม กล่าวว่า “สุนัขได้กลิ่นได้ดีกว่าเรามาก ดังนั้นพวกมันจึงพบสิ่งที่น่าสนใจให้เลียมากกว่าที่เราทำได้”

พวกมันใช้การเลียเพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับโลก “พวกมันได้กลิ่นเราโดยการเลียเรา” โฮโรวิทซ์เสริม

พฤติกรรมเลียที่เป็นปัญหา

สัญญาณความวิตกกังวลและความเครียด

การเลียมากเกินไปบางครั้งอาจเป็นสัญญาณว่าสุนัขมีความวิตกกังวล ไม่สบาย หรือเจ็บปวด พิจารณาว่ามนุษย์บางคนกัดเล็บหรือหมุนผมเมื่อพวกเขากังวล สัตวแพทย์เชื่อว่าสุนัขบางตัวเลียเพื่อปลอบใจตัวเอง

เวลาสุนัขรู้สึกกังวล หวาดกลัว อย่างเช่นเวลากลัวพลุ กลัวเสียงฟ้าร้อง พวกเขาก็จะเข้ามาใกล้เรา แล้วเงยหน้ามาเลียหน้าหรือคางเรา นั่นเพราะการเลียจะช่วยให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกปลอดภัย มั่นคงมั่นใจมากขึ้น

พฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ

ในกรณีที่รุนแรง การเลียอาจกลายเป็นพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ สุนัขที่เลียมากเกินไปอาจเป็นโรคความวิตกกังวลเรื้อรัง ความเบื่อหน่าย หรือแม้แต่ปัญหาทางการแพทย์ ตัวอย่างเช่น เมื่อสุนัขรู้สึกป่วย พวกมันบางครั้งเลียเพื่อลดอาการคลื่นไส้หรือความไม่สบาย

ข้อควรรู้เรื่องสุขภาพ

ความปลอดภัยของการปล่อยให้สุนัขเลียหน้า

การที่สุนัขเลียหน้าเราเป็นเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ปากของสุนัขมีเชื้อโรคที่เรียกว่า Capnocytophaga เชื้อโรคเหล่านี้พบในปากของมนุษย์เช่นกัน และโดยทั่วไปไม่ก่อให้เกิดภัยคุกคาม แม้ว่าจะสัมผัสผ่านการกัดหรือข่วน ความเสี่ยงของการเจ็บป่วยก็ยังต่ำ

อย่างไรก็ตาม หากคุณมีแผลเปิดและระบบภูมิคุ้มกันที่บกพร่อง กำลังใช้ยาบางชนิด หรือแพ้น้ำลายสัตว์ ความเสี่ยงของการติดเชื้อหรือปฏิกิริยาแพ้ที่เกิดจากการถูกเลียอาจสูงขึ้น

ตำนานที่ไม่เป็นความจริง

ตำนานเรื่องปากสุนัขสะอาดกว่าของมนุษย์นั้นไม่เป็นความจริง ทั้งสองมีแบคทีเรียมากกว่า 600 ชนิด

การจัดการพฤติกรรมการเลีย

เทคนิคการฝึกฝน

การแก้ปัญหาคือการสอนสุนัขให้ทักทายด้วยวิธีอื่น “ทุกอย่างเป็นเรื่องของการเสริมแรงเชิงบวก” ดร.แบล็กเวลล์อธิบาย “ปิดหน้าด้วยมือและพวกมันจะเลียมือแทน ให้รางวัลพฤติกรรมนี้และพวกมันจะมุ่งเป้าไปที่บริเวณเดียวกันในครั้งต่อไป”

ถ้าเราไม่ชอบให้สุนัขมาเลียหน้าเรา อย่าไปดุว่าหรือทำโทษ แค่เบี่ยงหน้าหนีนิดๆ แล้วลูบบริเวณข้างแก้มพวกเขาแทน สุนัขจะได้ไม่เสียความรู้สึก

การให้ความสนใจที่เหมาะสม

หากสุนัขของคุณเลียมากเกินไป ให้เริ่มด้วยการให้สุนัขนั่ง ซึ่งอาจหยุดการเลียเอง จากนั้นให้รางวัลพฤติกรรมด้วยขนม หรือใช้วิธีการฝึกสอนท่าต่างๆ เช่น กอด พูดตามคำสั่ง หรือท่าอื่นๆ

ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสุนัข

ความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้น

การสื่อสารเป็นปัจจัยสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสุนัขและเจ้าของ เช่นเดียวกับที่เรามีความสุขเมื่อสุนัขเข้าใจคำสั่ง หรือตอบโต้เมื่อถูกเรียกชื่อ สุนัขเองก็รู้สึกมีความสุขเมื่อเราเริ่มเข้าใจในท่าทางที่สุนัขแสดงออก

การพัฒนาความสัมพันธ์

การเลียที่เต็มไปด้วยน้ำลายเหล่านั้นช่วยเสริมสร้างความเป็นอยู่ทางอารมณ์ของสุนัขและสร้างความผูกพันที่แข็งแกร่งและรักใคร่มากขึ้นระหว่างเจ้าของและสุนัข การเลียยังช่วยพวกมันบรรเทาความเครียดและยืนยันว่าพวกมันเห็นเจ้าของเป็นผู้นำฝูง

มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ

ความซับซ้อนของการสื่อสาร

สิ่งที่น่าสนใจคือ แบล็กเวลล์เสริมว่าหายากที่คุณจะเห็นสุนัขโตเลียหน้าของสุนัขตัวอื่น มันเป็นเพียงพฤติกรรมที่เหมือนลูกสุนัขที่สุนัขแสดงต่อมนุษย์ ทำไม? เชื่อกันว่าการเป็นผู้ดูแลหลักของสุนัขตลอดชีวิต เราส่งเสริมให้เกิดวัยเด็กตลอดชีวิต

เจ้าของสุนัขมักเชื่อว่าพวกเขาสามารถเข้าใจสัตว์เลี้ยงของตน โดยระบุได้ว่าสุนัขของพวกเขากำลังเห่าเพื่อไปเดิน ขออาหาร หรือพยายามหาลูกเทนนิสที่ติดอยู่ “ในระดับหนึ่ง พวกมันกำลังสื่อสารกับเรา เราไม่เก่งในการตีความสิ่งที่พวกมันพูดเสมอไป” โฮโรวิทซ์กล่าว

บทสรุป: ความรักที่ซับซ้อนกว่าที่คิด

การที่สุนัขเลียใบหน้าเจ้าของนั้นไม่ได้เป็นเพียงการแสดงความรักอย่างเดียว แต่เป็นพฤติกรรมที่ซับซ้อนซึ่งผสมผสานระหว่างสัญชาตญาณดั้งเดิม การสื่อสาร และความต้องการทางกายภาพ การเข้าใจพฤติกรรมนี้จะช่วยให้เจ้าของสุนัขสามารถตอบสนองต่อความต้องการของสัตว์เลี้ยงได้ดีขึ้น และสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

การที่เราเข้าใจสภาพอารมณ์ของสุนัขจากการสังเกตท่าทางที่เขาสื่อออกมาและความเข้าใจวิธีการสื่อสารพื้นฐานของสุนัข จะช่วยให้ความสัมพันธ์ของเราดีขึ้นตามมาด้วย

ในที่สุด การเลียใบหน้าของสุนัขแสดงให้เห็นถึงความผูกพันที่ลึกซึ้งระหว่างมนุษย์และสัตว์เลี้ยง ซึ่งสร้างขึ้นจากการวิวัฒนาการร่วมกันเป็นเวลาหลายพันปี แม้ว่าการตีความหมายอาจซับซ้อน แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ พฤติกรรมนี้สะท้อนถึงความไว้วางใจและความรักที่สุนัขมีต่อเจ้าของในแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกมัน