สัญญาณเตือนที่ทาสแมวต้องระวัง! ทำไมแมวถึงไม่กินข้าวหรือกินน้อยลง 9 สาเหตุสำคัญที่อาจเป็นอันตราย

Exclusive Pet ทาสต้องรู้

การที่แมวไม่ยอมกินอาหารหรือกินน้อยลงอย่างผิดปกติเป็นสิ่งที่ทาสแมวทุกคนควรให้ความสำคัญ เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ หากแมวไม่กินอาหารเกิน 24 ชั่วโมงติดต่อกัน หรือหากปล่อยให้ปัญหานี้ดำเนินต่อไปอาจนำไปสู่โรคไขมันพอกตับ (Hepatic Lipidosis) ซึ่งเป็นโรคร้ายแรงที่อาจคร่าชีวิตแมวได้

สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้เผยให้ทราบถึงสาเหตุหลักที่ทำให้แมวมีพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ พร้อมแนะนำวิธีการสังเกตและแก้ไขปัญหาเบื้องต้น เพื่อให้เจ้าของสามารถดูแลน้องแมวได้อย่างเหมาะสม

สาเหตุทางด้านสุขภาพ

โรคและการเจ็บป่วย

สาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้แมวไม่ยอมกินอาหารคือการเจ็บป่วย โรคหลายชนิดส่งผลโดยตรงต่อความอยากอาหารในแมว ได้แก่ โรคไตวาย โรคเบาหวาน โรคลำไส้อักเสบ โรคไทรอยด์เป็นพิษ ไปจนถึงเนื้องอกหรือมะเร็ง เหล่านี้ล้วนทำให้แมวไม่สบายตัว คลื่นไส้ ไม่ยอมกินอะไรเลย

แมวที่เป็นโรคเบาหวานมักจะมีอาการ กินน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย น้ำหนักตัวลดอย่างรวดเร็ว และอาเจียน ส่วนโรคไตจะทำให้แมวมีอาการ ซึม ดูแห้งน้ำ กระหายน้ำ ไม่กินอาหาร ปัสสาวะบ่อย น้ำหนักลด กล้ามเนื้อฝ่อลีบ และอาเจียน

ปัญหาในช่องปากและฟัน

การที่ลูกแมวไม่กินอาหาร ก็อาจเกิดจากอาการบาดเจ็บที่ฟันหรือเหงือก ลูกแมวเองก็ปวดฟันได้เหมือนกับเด็กทารก อาการเจ็บเหงือกอาจกวนใจลูกแมวจนทำให้รู้สึกกินไม่ลง ปัญหาสุขภาพช่องปากหากปล่อยไว้อาจลุกลามรุนแรงและทำให้แมวไม่กินอาหารจนผอมแห้งได้

พยาธิและการติดเชื้อ

พยาธิหรือเชื้อโรคในระบบทางเดินอาหาร ทั้งพยาธิตัวกลม พยาธิตัวตืด พยาธิเม็ดเลือด และโปรโตซัว ล้วนดูดกินสารอาหารจากลำไส้ของแมว ทำให้แมวไม่สมบูรณ์ ผอมแห้ง แม้กินเยอะแค่ไหนก็ไม่อ้วน

สาเหตุทางด้านจิตใจและพฤติกรรม

ความเครียดและความกังวล

ความเครียดอาจส่งผลต่อความอยากอาหารของแมว แมวมักจะรู้สึกอ่อนแอและระวังตัวขณะกินอาหาร เมื่อแมวเครียด พวกเค้าจะเข้าสู่ภาวะตื่นตัวในระดับสูง ทำให้แมวส่วนใหญ่ไม่ยอมกินอาหาร แม้จะเป็นเมนูที่โปรดปรานมากก็ตาม

สาเหตุของความเครียดในแมวมีหลายประการ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม การย้ายที่อยู่ การมีสมาชิกใหม่ในบ้าน หรือการอยู่ตัวคนเดียวนานเกินไป แมวที่เคยอยู่ในบ้านกับเจ้าของอย่างใกล้ชิด หรือแมวที่ถูกเลี้ยงในครอบครัวขนาดใหญ่ จะคุ้นชินกับการมีคนอยู่ใกล้ ๆ แต่พอต้องอยู่ตัวเดียว หรือถูกนำไปฝากเลี้ยงกับใครก็ไม่รู้ เขาจะเหงา เครียด เศร้า และวิตกกังวล

การถูกรบกวนขณะรับประทานอาหาร

แมวต้องการความเป็นส่วนตัวขณะกินอาหาร การมีคนจ้องมองหรืออยู่ด้วยตลอดเวลา มีส่วนทำให้แมวไม่กินข้าว รู้สึกอึดอัด หรือติดนิสัยเลือกกินได้ ในบ้านที่เลี้ยงสัตว์หลายตัว ลูกแมวบางตัวอาจถูกสัตว์เลี้ยงตัวอื่นข่มขู่เพื่อสร้างอาณาเขต ทำให้เกิดเป็นความกลัวจนไม่กล้ากินอาหารหรือเมินอาหารในที่สุด

สาเหตุจากสิ่งแวดล้อมและภาชนะ

ความสะอาดของชามอาหาร

ความสะอาดของชามข้าวหรือถ้วยน้ำของสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หากดูแลไม่ดีอาจเกิดสิ่งสกปรกและเชื้อโรคปะปนลงในอาหาร ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหารได้

ปัญหาเรื่องภาชนะที่ใช้

ลูกแมวไม่ชอบให้หนวดของตนสัมผัสกับขอบถ้วยเวลาที่ก้มลงไปกินอาหาร หากหนวดแมวสัมผัสถูกสิ่งต่าง ๆ ระหว่างกินอาหาร จะทำให้แมวรู้สึกไม่อยากกินอาหารได้ เป็นเหตุผลที่เราแนะนำให้ใช้ถ้วยที่มีปากกว้างและก้นตื้น เพื่อไม่ให้หนวดแมวสัมผัสโดนภาชนะ

สัญญาณเตือนที่ต้องระวัง

อาการที่ควรสังเกต

อาการน้องแมวเบื่ออาหารมักจะพ่วงมากับอาการแมวซึม อยู่ๆ ก็เมินใส่อาหารโปรด อ้อนวอนกันทุกท่าก็ไม่อยากจะลุกมากิน นอกจากนี้แมวอาจมีอาการ พฤติกรรมเปลี่ยนไป คือ แมวซึม แม้จะมีของเล่นชิ้นโปรดมาล่อก็ไม่สนใจ หรือพฤติกรรมอาจเปลี่ยนไปจากปกติที่เป็นน้องเหมียวสายเที่ยว แต่อยู่ๆ ก็ซ่อนตัวอยู่ตามซอกหลืบทั้งวันเสียอย่างนั้น

การสูญเสียน้ำหนักอย่างรวดเร็ว

เมื่อน้องแมวน้ำหนักลดลงแบบไร้สาเหตุที่ชัดเจน นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว เพราะหากน้องแมวผอมลงอย่างรวดเร็วแล้วนั่นหมายความว่าน้องแมวกำลังสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ หรือมีระบบการเผาผลาญของร่างกายที่ผิดปกติไป

วิธีการแก้ไขเบื้องต้น

การปรับปรุงสภาพแวดล้อม

เจ้าของควรจัดเตรียมสถานที่ให้แมวกินอาหารได้อย่างปลอดภัย ไม่ถูกรบกวนจากสัตว์ตัวอื่น และควรวางชามอาหารในบริเวณที่เงียบสงบ ในกรณีที่มีการนำแมวตัวใหม่มาเลี้ยง ให้แยกแมวออกจากกันก่อน เพราะการไม่ได้แยกแมวออกจากกันตั้งแต่แรก จะทำให้แมวเครียด รู้สึกไม่ปลอดภัย จนเกิดอาการซึม ไม่กินอาหาร

การดูแลความสะอาด

ควรล้างทำความสะอาดชามอาหารทุกวัน และเปลี่ยนอาหารใหม่เป็นประจำ รวมถึงการเปลี่ยนภาชนะต่าง ๆ ของแมวเป็นระยะ เพื่อป้องกันความเบื่อหน่ายและรักษาสุขอนามัย

การให้น้ำอย่างเพียงพอ

แมวที่มีอาการซึม ไม่กินอาหาร นอนทั้งวัน ให้ลองป้อนน้ำด้วยไซริงค์ เพราะหากแมวมีอาการขาดน้ำ จะทำให้อาการทรุดมากกว่าเดิม การดื่มน้ำสำคัญต่อแมวมาก แนะนำให้ใช้ไซริงค์ป้อน โดยพยายามป้อนทีละนิด ป้องกันการสำลัก และให้หมั่นป้อนบ่อยๆ

การกระตุ้นความสนใจ

สามารถใช้แคทนิป (กัญชาแมว) เพื่อช่วยคลายความเครียดและกระตุ้นความสนใจในอาหาร หรือลองเปลี่ยนชนิดอาหารเป็นครั้งคราวเพื่อเพิ่มความหลากหลาย

เมื่อไหร่ควรพาไปพบสัตวแพทย์

กรณีฉุกเฉิน

หากแมวของคุณไม่กินอาหารเป็นเวลาเกิน 24 ชั่วโมง นั่นอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงอย่างโรคไขมันพอกตับ หรือ “Hepatic Lipidosis” ควรติดต่อเข้าพบสัตวแพทย์ทันที

อาการที่ต้องระวัง

หากเห็นแมวไม่กินข้าว ซึม เฉื่อยชา หรือมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ต้องรีบพาไปหาหมอโดยด่วน เพื่อหาสาเหตุและรักษาแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะกับโรคร้ายบางชนิด ถ้ารักษาทันท่วงทีก็มีโอกาสฟื้นตัวได้สูง แต่ถ้าช้าไป ก็อาจทำให้แมวทรุดหนักจนเอาชีวิตไม่รอด

การป้องกันและการดูแลระยะยาว

การสร้างนิสัยการกินที่ดี

แมวจอมยุ่งควรได้รับการฝึกให้กินอาหารแมวตั้งแต่เด็ก โดยเสิร์ฟอาหารแมวทั่วไปเป็นประจำทุกวัน เพื่อป้องกันแมวไม่กินข้าวและติดนิสัยเลือกกิน นอกจากนี้ควร หลีกเลี่ยงการให้อาหารหรือขนมของคน เพราะจะทำให้เจ้าเหมียวมีนิสัยเลือกกินและชอบตื๊อขอของกิน

การตรวจสุขภาพประจำปี

เจ้าของควรพาแมวไปตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อเฝ้าระวังโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น และสามารถตรวจพบปัญหาสุขภาพได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ

การดูแลสุขภาพช่องปาก

ควรหมั่นแปรงฟันให้แมวสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง และให้ขนมขัดฟัน เพื่อป้องกันการสะสมของคราบจุลินทรีย์และลดการเกิดโรคในช่องปาก

สรุป

การที่แมวไม่กินอาหารหรือกินน้อยลงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยที่ควรมองข้าม เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นโรคต่าง ๆ ปัญหาทางจิตใจ หรือสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เจ้าของควรสังเกตพฤติกรรมของแมวอย่างใกล้ชิด และหากพบอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด การดูแลที่เหมาะสมและการป้องกันล่วงหน้าจะช่วยให้น้องแมวมีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขไปตลอดชีวิต

การเป็นทาสแมวที่ดีไม่ได้หมายถึงการให้ความรักเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการเข้าใจและดูแลสุขภาพของน้องแมวอย่างถูกต้องด้วย เพราะน้องแมวไม่สามารถบอกเราได้ว่าเขารู้สึกอย่างไร การสังเกตอาการและพฤติกรรมจึงเป็นหน้าที่สำคัญของเจ้าของทุกคน